บทที่4 การค้นหาข้อมูลด้วย Search Engling

ความหมายของ Search Engine

Search Engine
คือเครื่องมือการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตที่ ทุกคนสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้โดยกรอกข้อมูลที่ต้องการค้นหาหรือ คำหลัก (คีเวิร์ด) เข้าไปที่ช่องค้นหากล่องแล้วกด Enter แค่นี้ข้อมูลที่เราค้นหาก็จะ ถูกแสดงออกมา อย่างมากมายก่ายกองเพื่อให้เราเลือกข้อมูลที่ เราโดนใจที่สุดเอามาใช้งานโดยลักษณะการแสดงผลของ Search Engine นั้นจะทำการแสดงผลแบบเรียงอันดับผลการค้นหาผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา
Search Engine
มี 3 ประเภท (ในวันที่ทำการศึกษา ข้อมูลนี้และได้ทำการรวบรวมข้อมูลผม สรุปได้ 3 ประเภทหลัก) โดยมีหลักการทำงานที่ต่างกันและ การจัดอันดับการค้นหาข้อมูลก็ต่างกันด้วยครับเพราะมีลักษณะการทำงานที่ต่างกันนี่เองทำให้โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะ มีการแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ประเภท ด้วยกัน แต่ที่พอสรุปได้ก็มีเพียง 3 ออกประเภทหลัก ๆ ดังที่จะนำเสนอต่อไปนี้ได้ครับ
ออกประเภทที่ 1 ตีนตะขาบเครื่องมือค้นหาแบบ
ตีนตะขาบจากเครื่องมือค้นหาคือเครื่องมือการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตแบบ อาศัยการบันทึกข้อมูลและจัดเก็บข้อมูล เป็นหลักซึ่งจะเป็นจำพวก Search Engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนื่องจากให้ ผลการค้นหาแม่นยำที่สุดและการประมวลผลการค้นหาสามารถทำได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้มีบทบาทในการค้นหาข้อมูลมากที่สุดใน ปัจจุบัน
โดยมีองประกอบหลักเพียง 2 ส่วนด้วยกันคือ
1 ฐานข้อมูลโดยส่วนใหญ่แล้วตีนตะขาบจาก Search Engine เหล่านี้จะมีฐานข้อมูลเป็นของ ตัวเองที่มีระบบการประมวลผลและการจัดอันดับที่เฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของตนเองอย่างมาก
2 ซอฟแวร์คือเครื่องมือหลักสำคัญ ที่สุดอีกส่วนหนึ่งสำหรับ Serch เครื่องยนต์ประเภทนี้เนื่องจากต้องอาศัยโปรแกรมเล็ก ๆ (ชนิดที่เรียกว่าจิ๋ว แต่แจ๋ว) ทำหน้าที่ในการตรวจหาและทำการ จัดเก็บข้อมูลหน้าเพจหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ใน รูปแบบของการทำสำเนาข้อมูลเหมือนกับ ต้นฉบับทุกอย่างซึ่งเราจะรู้จักกันในนาม Spider หรือ Web Crawler หรือ Search Engine Robots
ตัวอย่างหนึ่งของตีนตะขาบจาก Search Engine ชื่อดัง http://www.google.com
ตีนตะขาบจาก Search Engine ได้แก่ อะไร บ้าง
จะยกตัวอย่าง arrow คร่าว ๆ ให้ได้เห็นกันเอาแบบที่เรา ๆ ท่าน ๆ รู้จักหนะได้ครับก็ ได้แก่ ? Google, Yahoo, MSN, สด, Search, Technorati (สำหรับบล็อก)? ครับส่วนลักษณะการทำงานและการเก็บ ข้อมูงของ เว็บตีนตะขาบหรือหุ่นยนต์หรือแมงมุมนั้นแต่ละแห่งจะมีวิธีการเก็บ ข้อมูลและการจัดอันดับข้อมูลที่ต่าง กันนะครับเช่นคุณทำการค้นหาคำ ว่า “Search Engine คืออะไร” ผ่านทั้ง 5 แห่งที่ผมให้ไว้จะได้ผลหัวเรื่อง: การค้นหาที่ต่างกันได้ครับ
ออกประเภทที่ไดเรกทอรี 2 เว็บหรือบล็อกไดเรกทอรี
สารบบเว็บหรือบล็อกไดเรกทอรีคือสารบัญเว็บไซต์ที่ให้ คุณสามารถค้นหาข่าวสารข้อมูลด้วยหมวดหมู่ ข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันในปริมาณมาก ๆ คล้าย ๆ กับสมุดหน้าเหลืองครับซึ่งจะมีการสร้างดรรชนีมีการระบุหมวดหมู่อย่างชัดเจนซึ่งจะช่วยให้การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ตามหมวดหมู่นั้น ๆ ได้รับการเปรียบเทียบอ้างอิงเพื่อหา ข้อเท็จจริงได้ในขณะที่เราค้นหาข้อมูลเพราะว่าจะมีเว็บไซต์มากมายหรือ Blog มากมายที่มีเนื้อหาคล้าย ๆ กันใน หมวดหมู่เดียวกันให้เราเลือกที่จะหาข้อมูลได้อย่างตรงประเด็นที่สุด (ลดระยะเวลา ได้มากในการค้นหา) ซึ่งผมจะขอยกตัวอย่างดังนี้
ODP สารบบเว็บชื่อดังของโลกที่มี Search Engine มากมายใช้เป็นฐานข้อมูลสารบบ

1.ODP หรือ Dmoz ที่หลาย ๆ คนรู้จักซึ่งเป็น Web Directory ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Search Engine หลาย ๆ แห่งก็ใช้ข้อมูลจากที่แห่งนี้เกือบทั้งสิ้นเช่น Google, AOL, Yahoo, Netscape และอื่น ๆ อีกมากมาย ODP มีการบันทึก ข้อมูลประมาณ 80 ภาษาทั่วโลกรวมถึงภาษาไทยเราด้วยครับ (URL: http://www.dmoz.org)

2. สารบัญเว็บไทย Sanook ก็เป็น Web Directory ที่มีชื่อเสียงอีกเช่นกันและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองไทย (URL: http://webindex.sanook.com)

3. บล็อกไดเรกทอรีอย่าง BlogFlux ไดเรกทอรีที่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบล็อกมากมายตามหมวดหมู่ต่าง ๆ หรือบล็อกไดเรกทอรีอื่น ๆ ที่สามารถหาได้จากทำให้หลายแห่งนี้ครับ

ประเภทที่ 3 Meta Search Engine

Meta Search Engine คือ Search Engine ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัยเมตาแท็กในภาษา HTML ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่าง ๆ เป็นรูปแบบของ Tex แก้ไขด้วยภาษา HTML นั่นเองเช่นชื่อผู้พัฒนาคำค้นหาเจ้าของเว็บหรือบล็อกคำอธิบาย เว็บหรือบล็อกอย่างย่อ

ผลการค้นหาของ Meta Search Engine นี้มักไม่แม่นยำอย่างที่คิดเนื่องจากบางครั้งผู้ให้บริการหรือผู้ออกแบบเว็บสามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้มากมายเพื่อให้เกิดการค้นหาและพบเว็บหรือบล็อกของตนเองและอีกประการหนึ่งก็คือมีการ อาศัย Search Engine เซิร์ฟเวอร์ดัชนีหลาย? ๆ แห่งมาประมวลผลรวมกันจึงทำให้ผลการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร

มาถึงตอนนี้หลาย ๆ ท่านที่เคยสงสัยว่า “Search Engine คืออะไร” คงได้หายสงสัยกันไปบ้างแล้วและเริ่มเข้าใจหลักการทำงานของ Search Engine กันมากขึ้นเพื่อจะได้เลือกใช้อย่างถูกต้องและตรงกับความต้องการของ เราในการค้นหาข่าวสารข้อมูลสำหรับบทความ “Search Engine คืออะไร” นี้หากขาดตกบกพร่องประการใดหรือไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนท่านสามารถติชมหรือให้ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ผ่านความคิดเห็นของบทความชุดนี้เพื่อจะได้ทำการปรับปรุงและแก้ไข ให้ได้ข้อมูลที่ดีที่สุดและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ทำการค้นคว้างข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้งาน

ประเภทของ Search Engine

ประเภทของเครื่องมือค้นหา
SEO
suthamasJuly 28 20090
ค้นหา Search Engine
ทำไมเราต้องทำความรู้จักกับประเภทของ Search Engine หากคุณเกิดคำถามนี้ขึ้นในใจ นั่นหมายความว่าคุณยังไม่รู้จักการ Search Engine ดีพอเพราะวิธีการและการจัด เก็บ ข้อมูลของแต่ละ Search Engine แตกต่างกันไปตาม แต่ประเภทของ Search Engine ที่แต่ละเว็บไซต์นำมาใช้เก็บรวบรวม ข้อมูล

โดย Search Engine มี 3 ประเภทด้วกันซึ่งแต่ละประเภทมีหลักการทำงานที่ต่างกันและการจัดอันดับการค้นหาข้อมูลก็ต่างกันด้วย

เพราะมีลักษณะการทำงานที่ต่างกันทำให้โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะมีการแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ประเภทด้วยกัน แต่ที่พอสรุปได้ก็มีเพียง 3 ประเภทหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

ประเภทที่ 1 ตีนตะขาบเครื่องมือค้นหาแบบ
ตีนตะขาบจากเครื่องมือค้นหาเครื่องมือหัวเรื่อง: การคือค้นหาบนอินเตอร์เน็ตแบบอาศัยหัวเรื่อง: การ
บันทึก Thailand ข้อมูลและจัดเก็บ Thailand ข้อมูลเป็นหลักซึ่งจะเป็นจำพวก Search Engine ที่ได้รับความ

นิยมสูงสุดเนื่องจากให้ผลการค้นหาแม่นยำที่สุดและการประมวลผลการค้นหาสามารถทำ

ได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้มีบทบาทในการค้นหาข้อมูลมากที่สุดในปัจจุบัน

โดยมีองประกอบหลักเพียง 2 ส่วนด้วยกันคือ

1. ฐานข้อมูลโดยส่วนใหญ่แล้วตีนตะขาบจาก Search Engine เหล่านี้จะมีฐานข้อมูลเป็น

ของตัวเองที่มีระบบการประมวลผลและการจัดอันดับที่เฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของตนเองอย่างมาก

2. ซอฟแวร์คือเครื่องมือหลักสำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งสำหรับ Serch เครื่องยนต์ประเภทนี้

เนื่องจากต้องอาศัยโปรแกรมเล็ก ๆ (ชนิดที่เรียกว่าจิ๋ว แต่แจ๋ว) ทำหน้าที่ในการตรวจหา

และทำการจัดเก็บข้อมูลหน้าเพจหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ในรูปแบบของการทำสำเนาข้อมูล

เหมือนกับต้นฉบับทุกอย่างซึ่งเราจะรู้จักกันในนาม Spider หรือ Web Crawler หรือ Search Engine Robots

ตัวอย่างหนึ่งของตีนตะขาบจาก Search Engine ชื่อดัง http://www.google.com

ตีนตะขาบจาก Search Engine ได้แก่ Google, Yahoo, MSN, สด, Search, Technorati (สำหรับบล็อก) ส่วนลักษณะการทำงานและการเก็บข้อมูงของเว็บตีนตะขาบหรือหุ่นยนต์หรือแมงมุมนั้นแต่ละแห่งจะมีวิธีการเก็บข้อมูลและการจัดอันดับ ข้อมูลที่ต่างกัน

ประเภทที่ 2 Web Directory หรือบล็อกไดเรกทอรี
สารบบเว็บหรือบล็อกไดเรกทอรีคือสารบัญเว็บไซต์ที่ให้คุณสามารถค้นหา ข่าวสารข้อมูลด้วย

หมวดหมู่ข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันในปริมาณมาก ๆ คล้าย ๆ กับสมุดหน้าเหลืองครับซึ่งจะมี

การสร้างดรรชนีมีการระบุหมวดหมู่อย่างชัดเจนซึ่งจะช่วยให้การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ตาม

หมวดหมู่นั้น ๆ ได้รับการเปรียบเทียบอ้างอิงเพื่อหาข้อเท็จจริงได้ในขณะที่เราค้นหาข้อมูล

เพราะว่าจะมีเว็บไซต์มากมายหรือ Blog มากมายที่มีเนื้อหาคล้าย ๆ กันในหมวดหมู่เดียวกันให้เรา

เลือกที่จะหาข้อมูลได้อย่างตรงประเด็นที่สุด (ลดระยะเวลาได้มากในการค้นหา) ซึ่งผมจะขอ

ยกตัวอย่างดังนี้

โอสารบบเว็บชื่อดังของโลกที่มี Search Engine มากมายใช้เป็นฐานข้อมูลสารบบ

1.ODP หรือ Dmoz ที่หลาย ๆ คนรู้จักซึ่งเป็น Web Directory ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Search Engine

หลาย ๆ แห่งก็ใช้ข้อมูลจากที่แห่งนี้เกือบทั้งสิ้นเช่น Google, AOL, Yahoo, Netscape และอื่น ๆ อีก

มากมาย ODP มีการบันทึกข้อมูลประมาณ 80 ภาษาทั่วโลกรวมถึงภาษาไทยเราด้วยครับ

(URL: http://www.dmoz.org)

2. สารบัญเว็บไทย Sanook ก็เป็น Web Directory ที่มีชื่อเสียงอีกเช่นกันและเป็นที่รู้จักมากที่สุด

ในเมืองไทย (URL: http://webindex.sanook.com)

3. บล็อกไดเรกทอรีอย่าง BlogFlux ไดเรกทอรีที่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบล็อกมากมายตามหมวดหมู่

ต่าง ๆ หรือบล็อกไดเรกทอรีอื่น ๆ ที่สามารถหาได้จากทำให้หลายแห่งนี้ครับ

ประเภทที่ 3 Meta Search Engine
Meta Search Engine คือ Search Engine ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัย Meta Tag ในภาษา

HTML ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่าง ๆ เป็นรูปแบบของ Tex แก้ไขด้วยภาษา HTML นั่นเองเช่น

ชื่อผู้พัฒนาคำค้นหาเจ้าของเว็บหรือบล็อกคำอธิบายเว็บหรือบล็อกอย่างย่อ

ผลการค้นหาของ Meta Search Engine นี้มักไม่แม่นยำอย่างที่คิดเนื่องจากบางครั้งผู้ให้บริการหรือ

คุณผู้ออกแบบเว็บด้านใส่อะไรเข้าไปก็ได้มากมายเพื่อให้เกิดหัวเรื่อง: การค้นหาและพบเว็บหรือบล็อกของ
ตนเองและอีกประการคุณหนึ่งก็คือมีหัวเรื่อง: การอาศัยการค้นหาดัชนีเครื่องมือเซิร์ฟเวอร์หลาย ๆ แห่งมากประมวลผลรวมกัน จึงทำให้ผลการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ไม่เที่ยงตรงเท่าที่ควร

การใช้งาน Google

วิธีการทำงานของการค้นหาของ Google

เมื่อคุณนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์และทำการค้นหาใน Google คุณจะเห็นรายการผลลัพธ์จากทั่วทั้งเว็บเกือบจะทันที Google ค้นหาหน้าเว็บที่ตรงกับข้อความค้นหาของคุณและกำหนดลำดับของผลการค้นหาอย่างไร

กล่าวง่ายๆคือคุณสามารถเปรียบการค้นหาเว็บเป็นการดูหนังสือเล่มใหญ่มาก ๆ ซึ่งมีดัชนีอันน่าทึ่งที่บอกให้ทราบว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตรงไหนได้อย่างแม่นยำเมื่อคุณทำการค้นหาโดย Google โปรแกรมของเราจะตรวจสอบดัชนีของเราเพื่อ กำหนดผลการค้นหาที่มีความเกี่ยวข้องมากที่สุดซึ่งจะส่งคืน ( “แสดง”) ให้กับคุณ

ขั้นตอนหลักสามขั้นตอนในการแสดงผลการค้นหาให้แก่คุณมีดังนี้

การรวบรวมข้อมูล: Google ทราบเกี่ยวกับไซต์ของที่คุณคุณไหมเราด้านหาเจอไหม
หัวเรื่อง: การจัดทำดัชนี: Google ด้านจัดทำดัชนีไซต์ของที่คุณคุณได้ไหม
หัวเรื่อง: การสำคัญแสดง: ไซต์นั้นมีเนื้อหาที่ดีและมี ประโยชน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้นหาของ ใช้ไหมคุณผู้
หัวเรื่อง: การรวบรวม Thailand ข้อมูล
หัวเรื่อง: การรวบรวม Thailand ข้อมูลเป็นขั้นตอนที่ Googlebot จะค้นพบหน้าเว็บที่ใหม่และ อัปเดตเพื่อเพิ่มลงในดัชนีของ Google

เราใช้ชุดคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ในการดึงข้อมูล (หรือ “รวบรวมข้อมูล”) หน้าเว็บหลายพันล้านหน้าบนเว็บโปรแกรมที่ทำการดึงข้อมูลเรียกว่า Googlebot (หรือที่รู้จักกันในชื่อโรบ็อตบ็อตหรือสไปเด อร์) Googlebot ใช้ขั้นตอนแบบอัลกอริทึมกล่าวคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะกำหนดเว็บไซต์ที่จะรวบรวมข้อมูลความถี่และจำนวนหน้าเว็บที่จะดึงข้อมูลจากเว็บไซต์แต่ละแห่ง

ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลของเราเริ่มด้วยรายการ URL ของหน้าเว็บที่สร้างขึ้นจากขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลครั้งก่อนและเสริมด้วยข้อมูลแผนผังไซต์ที่ผู้ดูแลเว็บมีให้เมื่อไปที่เว็บไซต์เหล่านี้แต่ละเว็บ Googlebot จะตรวจหาลิงก์ ต่างๆในหน้าเว็บแต่ละหน้าและเพิ่มลิงก์ดังกล่าวลงในรายการหน้าเว็บที่จะรวบรวมข้อมูลจะมีการบันทึกเว็บไซต์ใหม่ ๆ การเปลี่ยนแปลงในเว็บไซต์ที่มีอยู่และลิงก์ที่ใช้งานไม่ได้เพื่อใช้ในการอัปเดตดัชนีของ Google

Google ไม่รับค่าตอบแทนเพื่อรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ให้บ่อยขึ้นและเราแยกธุรกิจด้านการค้นหาของเราออกจากบริการ AdWords ที่สร้างรายได้

การจัดทำดัชนี
Googlebot ประมวลผลแต่ละหน้าที่รวบรวมข้อมูลเพื่อที่ จะรวบรวมดัชนีขนาดใหญ่ของทุกคำที่เห็นและตำแหน่งของคำในแต่ละหน้านอกจากนี้เรายังประมวลผลข้อมูลที่รวมอยู่ในแท็กและแอตทริบิวต์ของเนื้อหาที่สำคัญเช่น แท็กชื่อและแอตทริบิวต์ Alt Googlebot สามารถประมวลผลเนื้อหาได้หลายประเภท แต่ ไม่ใช่ทุกประเภทตัวอย่างเช่นเราไม่สามารถประมวลผลเนื้อหาของไฟล์สื่อสมบูรณ์หรือหน้าเว็บแบบไดนามิกบางประเภท

หัวเรื่อง: การสำคัญแสดงผลหัวเรื่อง: การค้นหา
เมื่อคุณผู้ใช้ป้อนคำค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจะค้นหาดัชนีเพื่อหาหน้า: ภาพประกอบเว็บที่ตรงกันและส่งคืนผลลัพธ์ที่เราคิดว่าได้เกี่ยวข้องกับคุณผู้ใช้มากที่สุดความสามารถเกี่ยวข้องจะพิจารณาจากเนชั่ปัจจัยกว่า 200 ประการซึ่งหนึ่งใน นั้นคือเพจแรงก์สำหรับหน้าเว็บ ที่ระบุเพจแรงก์เป็นตัววัดความสำคัญของหน้าเว็บโดยพิจารณาจากลิงก์ขาเข้าที่มาจากหน้าเว็บอื่น ๆ กล่าวอย่างง่ายคือแต่ละลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่ไปยังหน้าเว็บในเว็บไซต์ ของคุณจะเพิ่มเข้าไปใน PageRank ของเว็บไซต์ของคุณลิงก์ต่างๆไม่เท่าเทียม กันทั้งหมด ของ Google จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะปรับปรุงประสบการณ์ การใช้งานโดยการระบุลิงก์ที่เป็นสแปมและการกระทำอื่น ๆ ซึ่งส่งผลเสียต่อผลการค้นหาประเภท ลิงก์ที่ดีที่สุดคือลิงก์ที่มี ให้ตามคุณภาพของเนื้อหาของคุณ

เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่สูงในหน้าผลการค้นหาสิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบว่า Google สามารถรวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ของคุณได้อย่างถูกต้องหลักเกณฑ์สำหรับผู้ดูแลเว็บของเราได้สรุปแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงหลุมพรางที่พบทั่วไปและปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ของคุณให้สูงขึ้น

คุณลักษณะหรือคุณหมายถึงของ Google และ Google เติมข้อความอัตโนมัติได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลาโดยการแสดงคำหลักที่เกี่ยวข้องการสะกดผิดทั่วไปและข้อความค้นหายอดนิยมเช่นเดียวกับผลการค้นหาของ google.com คำหลักที่คุณลักษณะดังกล่าวใช้จะสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติโดยโปรแกรมรวบรวมข้อมูลเว็บและอัลกอริทึมการค้นหาเราแสดงการคาดคะเนเหล่านี้ต่อเมื่อเราคิดว่าคุณลักษณะเหล่านี้อาจประหยัดเวลาของผู้ใช้ได้หากไซต์ได้รับอันดับ ที่ดีสำหรับคำหลักหนึ่ง ๆ นั่นก็เพราะเราได้ใช้อัลกอริทึมในการตัดสินว่าเนื้อหาของไซต์มีความเกี่ยวข้องกับข้อความค้นหาของผู้ใช้มากกว่า

เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser)

เว็บเบราเซอร์คืออะไร

“เว็บเบราเซอร์คืออะไร” เป็นคำถามที่ผมยังสงสัยว่าทำไม คนยังคงถามและเรายังได้ยินบ่อยมากทั้งจากเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่คือถามกันเกือบทุกวัยเลยก็ว่าได้ที่เป็นเช่นนี้ผมเดาเอาว่าไม่ใช่ว่า พวกเราจะไม่รู้ซะเลยที่เดียว ว่า เว็บเบราเซอร์คืออะไรเพราะหลาย ๆ ท่าน (รวมทั้งผมด้วย) ต่างก็ใช้งานมันอยู่ทุกวัน อย่างน้อยทุกคนก็ต้องรู้ละว่า เว็บเบราเซอร์ (เว็บบราวเซอร์) คือโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ ที่ใช้ท่องเว็บหรือใช้ดูข้อมูล ที่อยู่ในเว็บไซต์ แต่นิยามที่แต่ละคนให้ถึงจะไม่ผิด แต่ก็มีความหลากหลายไม่เหมือนกันไม่ครอบคลุมหรือไม่ถูกต้องเสียทีเดียวซึ่งหลังจากได้ค้นหาและอ่านนิยามจากหลาย ๆ เว็บผม ขอให้ความหมายของเว็บเบราว์เซอร์ใหม่ดังนี้
เว็บเบราเซอร์คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ใน การเข้าถึงข้อมูลเและติดต่อสื่อสารกับระบบสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบของเว็บเพจซึ่งอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW )

เว็บเบราเซอร์คืออะไรความหมายจากหลาย ๆ เว็บไซต์

ช่วงน้ำท่วมผมอยู่ว่าง ๆ เลยลองค้นดูใน Google ว่ามีใครให้ความหมายหรือนิยาม “เว็บเบราเซอร์คืออะไร” ไว้อย่างไรบ้างจากผลการค้นหาผมไม่เจอคำนิยามจากหน่วยการที่น่าจะใช้อ้างอิงได้อย่างกระทรวง ไอซีทีหรือหน่วยงานด้านภาษาต่างๆ แต่เจอในเว็บของสถานศึกษาและเว็บเกี่ยวกับไอทีอยู่พอสมควรในที่นี้ผมขออนุญาตนำ 2-3 ความหมายที่คิดว่าน่าจะถูกต้องมาลงไว้ด้วยดังนี้

เว็บเบราเซอร์คือ

“โปรแกรมที่ใช้สำหรับท่องอินเทอร์เน็ต (sufring อินเทอร์เน็ต) คือใช้ในการเปิดหน้าเว็บและอย่างอื่นอีกมาก” – http://www.vcharkarn.com/vblog/36733
“โปรแกรมที่ใช้สำหรับเป็นประตูเปิดเข้า สู่โลก WWW (World Wide Web) หรือพูดกันอย่างง่ายก็คือโปรแกรม
ที่ใช้สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ตที่เรานิยมใช้กันขณะนี้ทุกวันนี้โดยเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) จะเข้าใจในภาษา HTML นี้คือเหตุผลว่าทำไมต้องใช้ ภาษา HTML ในการสร้างเว็บเพจเพราะโปรแกรมเว็บเบ ราว์เซอร์นั่นสามารถเข้าใจและสามารถทำงานตามคำสั่งของภาษา HTML ได้ “- http://school.obec.go.th/pp_school/html/browser.html
” โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบ กับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะเช่นภาษาเอชทีเอ็มแอล (HTML) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บ หรือเว็บเซิร์ฟเวอร์หรือระบบคลังข้อมูล อื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบ เสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ “- http://www.mindphp.com + http://th.wikipedia.org

เว็บเบราเซอร์คืออะไรความหมายที่อาจทำให้หลายคนสับสน

จากนิยามของเว็บเบราเซอร์ที่ได้ข้างต้นรวมทั้งที่ผมได้ให้ไว้เล่น ๆ ด้วยจะเห็นได้ว่ามีความหมายที่คล้าย ๆ กันคือ

เว็บเบราเซอร์คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บหรือใช้ดูข้อมูลที่อยู่ในหน้าเว็บเพจ

อย่างไรก็ตามจากนิยามหรือความหมายของเว็บเบราว์เซอร์ที่ผมเจอในเว็บต่างๆผมมอง ว่ามี 2 ประเด็นที่หลาย ๆ คนอาจจะยัง สงสัยและอาจเป็นสาเหตุให้ตีความหรือเข้าใจว่า เว็บเบราเซอร์คืออะไรแตกต่างหรือคลาดเคลื่อนกันไปคือ
หัวเรื่อง: การ ใช้คำ “สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ต” ที่อาจจะทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจ ได้ว่าอินเทอร์เน็ตก็คือ WWW (World Wide Web) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เสียทีเดียวเพราะคำว่า รายละเอียดเป็นแค่ส่วนหนึ่งของอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็น คำที่ มีความหมายกว้างขวางกว่าและยังรวม เอาการใช้งานหรือหรือบริการอื่น ๆ นอกจาก WWW เอาไว้ด้วยเช่นอีเมล์ (E-mail) แชท (พูดคุย) IRC และ FTP เป็นต้น
หัวเรื่อง: การใช้คำ “ภาษา HTML” ที่ผมว่ามันยาก ไปสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปหรือบาง คนที่รู้มากขึ้นมาหน่อยก็อาจจะสงสัยอีกว่าแล้วภาษา Java, JavaScript, ASP, PHP, CFM หรืออื่น ๆ ล่ะมันคืออะไรซึ่ง ในที่นี้ผมขออธิบายให้เข้าใจนิดหน่อยว่า HTML คือภาษาหลักที่เว็บเบราเซอร์ใช้แสดงผลหรือแสดงข้อมูลในหน้า เว็บเพจส่วนภาษาอื่น ๆ นั้นคือภาษาเสริมที่ทำให้คนเขียนเว็บจัดการข้อมูลและการแสดงผลต่างๆได้ดีและสะดวกยิ่งขึ้นซึ่งในการใช้ภาษาเสริมอื่น ๆ นั้นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมเพิ่ม ด้วยเพื่อทำหน้าที่ประมวลผลแล้วแปลผลที่ได้ให้เป็นภาษาหลัก (HTML) ส่งให้เว็บเบราเซอร์นำไปแสดงในหน้าเว็บเพจต่อไป ดังนั้นในการเขียนเว็บไม่ว่าจะใช้ภาษาเสริมอะไร ก็ตามจะต้องใช้ร่วมกับภาษาหลัก (HTML) เสมอและข้อมูลที่เราเห็นในหน้า เว็บเพจของทุกเว็บไซต์ก็จะถูกแสดงผลด้วยภาษาหลักหรือ HTML เสมอด้วยเช่นกัน

เว็บเบราเซอร์คืออะไรความหมายโดยสรุปสั้น ๆ

จากนิยามของเว็บเบราว์เซอร์ที่ผมได้ให้ตามความเข้าใจข้าง ต้นและจากการค้นหาและอ่านจากเว็บอื่น ๆ ผมขอสรุปและให้นิยาม เว็บเบราเซอร์คืออะไรดังนี้
เว็บเบราเซอร์คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ใน การเข้าถึงข้อมูลเและ ติดต่อสื่อสารกับระบบสารสนเทศที่อยู่ ในรูปแบบของเว็บเพจซึ่งอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW)

การใช้งาน Google Docs

การพิมพ์งานเป็นส่วนหนึ่งที่หลาย ท่านจำเป็นต้องใช้โดยเฉพาะผู้ใช้คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คตั้งแต่เด็กจนถึงวัยทำงานและจนวัยแก่ชราสิ่งที่ใช้เป็นประจำคือการพิมพ์เอกสารหรือพิมพ์งานโดยในอดีตหลายท่านจะต้อง เสียเงินส่วนหนึ่งซื้อซอฟต์แวร์พิมพ์งาน อย่าง Microsoft Office ซึ่งจะมีโปรแกรมย่อยอย่างโปรแกรม Word Excel PowerPoint มาใช้ในการทำงานหรือโปรแกรมตระกูล iWork ของ Mac เป็นต้น แต่ปัจจุบันนี้คุณสามารถพิมพ์งาน ได้ฟรีๆไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ต้องติดตั้ง บนคอมใช้ได้ตลอดไปแค่พิมพ์ผ่าน ทางบนเบราว์เซอร์และผ่านแอพซึ่งบริการนี้เติบโตอย่างมากคือ Google เอกสารจากGoogleนั่นเอง

รู้จัก Google Docs กันซะนิด

[YouTube https://www.youtube.com/watch?v=6_hJ3R8jEZM?rel=0%5D

Google เอกสารหรือGoogle Docs  คือ  เว็บไซต์ที่ให้บริการพิมพ์งานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทางออนไลน์ให้เราด้านจัดการเอกสารได้เรียกเข้าโหลดฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นเพียงเพลงแค่ที่คุณคุณมีบัญชีความ Google บัญชีเดียวก็สามารถใช้งานบริการGoogle Docsได้โดยปัจจุบันGoogle Docsมีโปรแกรม ย่อยอยู่ 4 ตัวคือเอกสารสไลด์แผ่นแบบฟอร์ม

แม้ว่าGoogle Docsนี้แม้ดูหน้าตาและรูปแบบเหมือน ทาง Microsoft Office แต่Google Docsเป็นรายแรกที่ให้บริการสำนักงานบนเว็บไซต์และสามารถใช้งานได้แบบ ฟรีๆไม่ต้องซื้อซอฟต์แวร์มาติดตั้งไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมใช้งานได้ทันทีบน เบราเว็บว์เซอร์ง่ายๆเพียงเข้าที่docs.google.comแล้วเข้าทำการลงชื่อเข้าใช้แค่นี้ก็สามารถดูเอกสารที่อยู่ บน Google ไดรฟ์หรือ Google เอกสารพร้อมทั้งสามารถสร้าง, แก้ไขเอกสารและคลิกเปิดอ่านเอกสารได้ ทันที

[YouTube https://www.youtube.com/watch?v=7zmOYziFKZw?rel=0%5D

รวมทั้งสามารถแก้ไขเอกสารพร้อมกับเพื่อน ๆ ในหน้าเอกสารเดียวกันได้ด้วยเรียกกันว่าช่วยกันพิมพ์พร้อมกับเพื่อนได้เลยแม้อยู่สถานที่กันก็ทำงานพร้อมกันได้โดยไม่ต้องเสียเวลาบันทึกและส่งไฟล์ไปๆมาๆด้วยโดยเรา จะเห็นหน้าจอเดียวกันว่าเราและเพื่อน ๆ กำลังพิมพ์อะไรอยู่ในเอกสารเดียวกันรวมทั้งการแชร์เอกสารก็สะดวกโดยการส่งลิงค์หรือแชร์กับเพื่อน ๆ ภายในกลุ่มได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องบันทึกลงบนคอมพิวเตอร์ Harddisk flashdrive เลย

กว่าจะมาเป็น Google Docs

Writely-google-เอกสาร

ในส่วนบริการเอกสารเดิมคือชื่อWritely.com  ซึ่งเป็นโปรแกรมแก้ไขเอกสารออนไลน์สร้างโดย บริษัท บริษัท Upstartle เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2005  สเปรดชีต-google-เอกสารและในส่วนของแผ่นนั้น Google ก็เปิดตัว  สเปรดชีตของ Googleที่มีคุณสมบัติเหมือนโปรแกรมตารางของไมโครซอฟท์อย่าง Excel เมื่อเดือนมิถุนายน 2006 ซึ่ง แต่เดิมพัฒนาจาก บริษัท 2Web เทคโนโลยีก่อนที่ Google ซื้อมาเป็นของตัวเองเมื่อเดือน มิถุนายน 2005

และบริการ Google Docs เกิดขึ้นเมื่อ Google ซื้อกิจการ Upstartle ผู้พัฒนาโปรแกรมแก้ไขเอกสารออนไลน์ Writely.com เมื่อเดือนมีนาคม 2006 แล้วมาเปลี่ยนชื่อเป็น Google Docs มาจนถึงปัจจุบัน (หากคุณพิมพ์ writely.com ตอนนี้ก็จะเข้าสู่เว็บ Google Docs ) และสามารถทำงานร่วมกันกับ Google สเปรดชีตได้ด้วย

เตรียมการใช้งาน Google Docs

google-เอกสารอุปกรณ์

สิ่งที่ต้องมีสำหรับผู้ใช้ Google Docs คือ

  • ต้องมีบัญชีบัญชี Googleหากไม่มีก็สมัครผ่านทาง gmail.com หรือ บนมือถือ Android ก็สมัครได้เช่นกันฟรี
  • สำหรับคุณผู้ใช้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ตระบบผู้ซื้อสินค้าปฏิบัติการ Windows, Mac OS X, GNU / Linux ฯลฯคุณต้องมีเว็บเบราว์เซอร์ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การรันเว็บไซต์ Google Docsด้วยเช่น Internet Explorer, Microsoft ขอบ, Opera, Firefox, Safari และแนะนำอย่างยิ่ง ที่สุดคือ Chrome เพราะ Chrome จะมีปลั๊กอินบางส่วนเข้ากับการ ทำงานของ Google Docsได้
  • เชื่อมต่อคุณต้องอินเทอร์เน็ตทางทหารผ่านทางช่องทางใดทางคุณหนึ่งเช่น Hi-Speed Internet, Wi-Fi, 3G, 4G
  • อุปกรณ์โทรศัพท์มือถืออื่น ๆทั้งบน iOS ของคุณอย่างเช่น iPhone, iPod Touch, iPad และโทรศัพท์มือถือแท็บเล็ต ระบบปฏิบัติการ Android ทุกรุ่นซึ่งที่คุณคุณด้านโหลดแอพที่เกี่ยวข้องกับเอกสาร Google ได้เรียกเข้าโหลดฟรีเช่น Google Docs, Google, Google ชี เลื่อนได้ทาง App Store และ Play สโตร์ซึ่งตัวแอพจะออกแบบเข้ากับ มือถือ iOS และ Android ให้คุณพิมพ์งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

วิธีการใช้งานเว็บ Google Docs อย่างรวดเร็ว

กรณีใช้คอมพิวเตอร์พีซีโน๊ตบุ๊ค (iOS, Android, Linux, Chromebook)

  • เข้าGoogle Docsที่ที่ http://docs.google.comเพื่อพิมพ์งานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทั่วไปการแก้ไขเอกสาร (คล้ายกับไมโครซอฟท์คำ)
  • เข้าGoogle ชีตที่   http://sheets.google.com  เพื่อแก้ไขเอกสารแบบตารางคำนวณหรือไฟล์พวก Excel (คล้ายกับ Microsoft Excel)
  • เข้าGoogle สไลด์ที่http://slides.google.comเพื่อสร้างสไลด์นำเสนองานเจ้าหน้าที่ฝ่าย (ใช้ทดแทนหรือร่วมกับ PowerPoint ได้)

Google Docs-2015-P01

แล้วทำการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google เพื่อเข้าสู่หน้าพื้นที่ทำงานของตัว เองในตัวอย่างนี้จะเป็นของ Google Docs  โดยจะโหลดเอกสารทั้งพวกของ WordหรือGoogle Docsเองที่อยู่บน Google ไดรฟ์มาปรากฏในหน้าของGoogle Docsด้วย แต่ถ้า ต้องการสร้างเอกสารเพื่อเริ่มต้นพิมพ์งาน ใหม่ก็แตะที่ไอคอน + บริเวณมุมขวาล่างของหน้าเว็บไซต์

Google Docs-2015-P02

จะเข้าสู่หน้าจอทำงานของGoogle Docsหน้าตาก็คล้ายคลึงกันกับโปรแกรม Word คุณสามารถพิมพ์งานใส่ภาพได้ตาม ต้องการเมื่อพิมพ์เสร็จก็ปิดหน้าต่างทันทีโดยไม่ต้องบันทึกเพราะ Google Docs บันทึกโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว

Google Docs-2015-P03

และยังสามารถเปิดงานนี้เพื่อแก้ไข ต่อทั้งบนคอมพิวเตอร์และทางแอพ Google Docsบนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ ต iOS และ Android ต่อได้เลย

นี่เป็นตัวอย่างคร่าวๆในการใช้Google Docsที่ท่านสามารถใช้งานได้ฟรีแม้ เครื่องคอมของคุณหรือเครื่องอื่นอาจไม่มีโปรแกรม Microsoft Officeก็สามารถใช้Google เอกสารในการพิมพ์งานได้ง่ายและทำได้ ทุกที่ทุกเวลาบนทุกอุปกรณ์จริงๆ